แชร์

วิธีเลือกสีกันสนิม (Anti-Rust Primer) อย่างมืออาชีพให้ถูกประเภท

13 ผู้เข้าชม

หลักการพื้นฐาน: รู้จัก "เหล็ก" ก่อนรู้จัก "สี"
ก้าวแรกสู่การเลือกสีกันสนิมอย่างเชี่ยวชาญคือการเข้าใจว่าคุณกำลังจะทาสีลงบนพื้นผิวประเภทใด เพราะเหล็กแต่ละชนิดต้องการการยึดเกาะและการป้องกันที่แตกต่างกัน

1. เหล็กดำใหม่ (New Black Steel): เหล็กที่ยังไม่เคยทาสี และยังไม่มีสนิม ควรใช้สีรองพื้นกันสนิมมาตรฐาน เช่น Red Oxide หรือ Zinc Phosphate เพื่อสร้างชั้นป้องกันและการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมก่อนทาสีทับหน้า
2. เหล็กที่มีสนิม (Rusty Steel): เหล็กเก่าที่เริ่มมีสนิมแล้ว ต้องใช้สีรองพื้นที่มีคุณสมบัติ "หยุดสนิมทันที" (Rust Converter/Inhibitor) หรือ Epoxy Mastic ที่สามารถทาทับสนิมที่ไม่หลุดล่อนรุนแรงได้ เพื่อหยุดการลุกลามของสนิมเดิม (อาจต้องมีการขัดสนิมที่หลวมออกก่อน)
3. เหล็กกัลวาไนซ์ หรือเหล็กชุบซิงค์ (Galvanized/Zinc-Coated Steel): เหล็กที่มีผิวเรียบลื่นและถูกเคลือบป้องกันมาแล้ว สีกันสนิมทั่วไปจะไม่ยึดเกาะ ควรเลือกใช้สีรองพื้นสำหรับ "เหล็กกัลวาไนซ์โดยเฉพาะ" ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสูตร Acrylic หรือ Epoxy ที่มีคุณสมบัติการยึดเกาะสูง                                                                                                                                                                           เจาะลึก: ประเภทสีกันสนิม (Primer) และความเหมาะสม
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ การรู้จักเกรดของสีรองพื้นกันสนิมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ตรงตามงบประมาณและความต้องการความทนทานของชิ้นงาน 

ประเภทสีรองพื้นกันสนิม จุดเด่นหลัก เหมาะสำหรับงาน
1. Alkyd Resin (Red/Grey Oxide) ราคาประหยัด, ใช้งานง่าย, แห้งเร็ว, ป้องกันสนิมทั่วไป งานเหล็กทั่วไปในบ้าน, รั้ว, ประตู, โครงสร้างที่ไม่รับโหลดหนัก
2. Zinc Phosphate คุณภาพสูงกว่า Red Oxide, มีสารป้องกันสนิมที่ดีกว่า งานเหล็กโครงสร้างที่ต้องการความทนทานปานกลางถึงสูง
3. Epoxy Primer (2-Component) ความทนทานสูงสุด, ทนสารเคมี, ทนการขูดขีด, ยึดเกาะดีเยี่ยม งานอุตสาหกรรม, โครงสร้างใกล้ทะเล, แทงก์น้ำมัน/สารเคมี, โครงสร้างขนาดใหญ่
4. Epoxy Mastic (1- or 2-Component) สามารถทาทับสนิมที่ไม่รุนแรงได้, ไม่ต้องเตรียมพื้นผิวมากนัก งานซ่อมบำรุงเหล็กเก่าที่มีสนิม, งานที่ไม่สามารถขัดสนิมออกได้หมด
5. 2-in-1 (Rust-Proof Top Coat) สะดวก, ประหยัดเวลา, เป็นทั้งรองพื้นและทับหน้าในตัว งานที่ไม่ต้องการความทนทานสูงสุด, งาน DIY ที่ต้องการความรวดเร็ว

เทคนิคการเลือกเฉดสีรองพื้น (Color Matching)
สีกันสนิมไม่ได้มีแค่หน้าที่ป้องกันสนิมเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความสวยงามของสีทับหน้าด้วย:
- สีกันสนิมสีเทา: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการทาสีทับหน้าด้วย สีโทนสว่างหรือสีโทนอ่อน (เช่น สีขาว, สีเหลือง, สีฟ้าอ่อน) เพราะสีเทาจะช่วยไม่ให้สีทับหน้าเพี้ยนหรือมีความคล้ำ
- สีกันสนิมสีแดง (Red Oxide): เหมาะสำหรับงานที่ต้องการทาสีทับหน้าด้วย สีโทนเข้ม (เช่น สีดำ, สีน้ำตาลเข้ม, สีเขียวเข้ม)

คำแนะนำเพิ่มเติม (The Pro-Tips)
1. ความหนาฟิล์มสี (Film Thickness): ประสิทธิภาพการป้องกันสนิมไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "ยี่ห้อ" เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ "ความหนาของฟิล์มสี" ด้วย ต้องทาสีรองพื้นให้ได้ความหนาตามที่ผู้ผลิตกำหนด (มักจะระบุเป็นไมโครเมตร หรือจำนวนเที่ยวที่ต้องทา)
2. ตัวทำละลาย (Thinner): ห้าม! ใช้ทินเนอร์หรือน้ำมันสนที่ไม่ได้ระบุบนฉลากสินค้าเด็ดขาด การใช้ตัวทำละลายผิดประเภทจะทำให้คุณสมบัติการยึดเกาะและการป้องกันสนิมของสีด้อยลง
3. ระบบสี (Coating System): เพื่อความทนทานสูงสุด ควรเลือกใช้สีรองพื้นและสีทับหน้าจาก "ระบบสีเดียวกัน" และทำตามขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวที่ถูกต้อง (เช่น การขจัดคราบไขมัน, การขัดสนิม, การทำความสะอาด)
 
ปรึกษาสำรวจหน้างานฟรี
โทร 093-4414198 
www.magiceqm.com
 

บทความที่เกี่ยวข้อง
สนิม: ศัตรูเงียบของโครงสร้างและทรัพย์สิน พร้อมแนวทางป้องกันและแก้ไขแบบมืออาชีพ
สนิม หรือที่รู้จักกันทางเคมีว่า การกัดกร่อนของโลหะ (Corrosion) คือปฏิกิริยาทางเคมีไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเมื่อโลหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล็ก และ โลหะผสมเหล็ก สัมผัสกับออกซิเจนและน้ำ ก่อให้เกิดสารประกอบออกไซด์ของเหล็ก ซึ่งเราคุ้นตากันในรูปแบบของคราบสีส้มแดงหรือสีน้ำตาล ความเสียหายจาก สนิมเหล็ก ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงาม แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง, อายุการใช้งานของเครื่องจักร, และความปลอดภัยของทรัพย์สินในระยะยาว
เปิดแผนงานซ่อมบ่อบำบัดน้ำรั่วในโรงงาน: กุญแจสู่การดำเนินงานที่ยั่งยืนและปลอดภัย
ในบริบทของการดำเนินงาน โรงงาน อุตสาหกรรม ระบบบำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะส่วนของ บ่อบำบัดน้ำ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่เพียงแต่รับผิดชอบต่อการจัดการของเสีย แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม และภาพลักษณ์องค์กร การละเลย งานซ่อมบ่อบำบัดน้ำ เมื่อเกิดปัญหา บ่อบำบัดน้ำรั่ว จึงไม่ใช่แค่ความเสี่ยง แต่คือต้นทุนที่อาจสูงลิ่วหากเกิดการฟ้องร้องหรือการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต
FRP
ในโรงงานอุตสาหกรรม บ่อบำบัดน้ำเสีย ถังเก็บสารเคมี และพื้นที่ที่ต้องสัมผัสน้ำหรือสารกัดกร่อนตลอดเวลา จำเป็นต้องมี ระบบป้องกันการรั่วซึมและการกัดกร่อนที่ได้มาตรฐาน หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและยอมรับคือ FRP Coating (Fiberglass Reinforced Plastic Coating) หรือการเคลือบไฟเบอร์กลาสเสริมแรง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy